วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

อำเภอ..แม่จัน

ดอยแม่สลอง
         เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านสันติคิรี เดิมชื่อบ้านแม่สลองนอก เป็นชุมชนผู้อพยพจากกองพล ๙๓ ซึ่งอพยพจากประเทศพม่าเข้ามาในเขตไทย จำนวนสองกองพันคือ กองพันที่ ๓ เข้ามาอยู่ที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และกองพันที่ ๕ อยู่ที่บ้านแม่สลองนอก ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๔ ในเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ดอกนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งเป็นซากุระพันธุ์ที่เล็กที่สุด สีชมพูอมขาว จะบานสะพรั่งตลอดแนวทางขึ้นดอยแม่สลอง เป็นพันธุ์ไม้ที่หาชมได้ยากในเมืองไทย เพราะเจริญเติบโตอยู่แต่เฉพาะในภูมิอากาศหนาวจัดเท่านั้น



******************************************************

พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินฯ
         เป็นเจดีย์สีขาวงามสง่าตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของดอยแม่สลอง ชื่อว่า พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี ทางขึ้นอยู่เลยบริเวณหมู่บ้านเพียงเล็กน้อย มีทางแยกขึ้นเขา ทางขึ้นเป็นทางชันมาก หากรถสภาพไม่ดีหรือรถดีแต่คนขับไม่เก่งไม่สมควรขึ้น บริเวณจอดรถมีไม่มาก ด้านทิศตะวันออกหรือด้านหลังของเจดีย์เป็นที่ตั้งของพระอุโบสถ์ที่สวยงาม เมื่ออยู่บนจุดนี้มองลงไปยังเบื้องล่างจะเห็นวิวที่สวยงามที่สุดของทุกมุมมองของดอยแม่สลอง

******************************************************

ทุ่งบัวตองดอยหัวแม่คำ
         ชมทุ่งบัวตองบานท่ามกลางหมู่บ้านชาวเขา ดอยหัวยแม่คำเป็นหมู่บ้านชาวไทยภูเขาหลายเผ่า ในแต่ละหมู่บ้านมีบ้านในรูปแบบของตนเองปลูกอยู่ตามที่ราบไหล่เขา และมีบัวตองกระจายอยู่ทั่วไปตามหมู่บ้าน ในช่วงเดือนพฤศจิกายนจะออกดอกสีเหลืองไปทั่วดอย นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชมดอกบัวตองแล้วยังได้ชมวิถีชีวิตของชาวเขาอีกด้วย


 
******************************************************

หมู่บ้านชาวอาข่าหล่อชา
       เป็นหมู่บ้านชาวเขา เป็นโครงการนำร่องของ โครงการหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชนมีส่วนร่วม ภายในหมู่บ้านนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตประจำวันตามวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่า ชมหมู่บ้านชาวอาข่าในแบบเดิมๆ ที่ไม่ได้เสริมแต่งเพื่อการท่องเที่ยว หากมีเวลาน่าแวะไปเยี่ยมชม หมู่บ้านหล่อชา อยู่ในเขตอำเภอแม่จัน เลยจากลานทองวิลเลจเล็กน้อย จากลานทองวิลเลจ เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1089 แม่จัน-ท่าตอน ผ่านป้อมตำรวจตรงไปอีก 1 กิโลเมตรถึง

          

******************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น